lifestyle - makeup
fashion
by HELLOXNINI

Monday, October 10, 2016

[Review] BK + ACNE MASK

Hi everyone :)


Nini is back to the blog !

.
.

Since I came back from the UK , my face has been very sensitive to the change of weather,
as you all know that Thailand is a very very hot country ( there's even a joke about how the 3 seasons of Thailand are hot, hotter, and f*cking hot lol). Hence, when I was in the UK i have to change all my skincare and now that I'm back I have to switch back to what I have been used when I was here before then. However, the bad thing is that I got acnes and rashes! They're all over my forehead and my cheek, and it's such a worrying for me because I barely got any acnes on my face before. My skin used to be really nice and smooth, but after you are in the mid 20s, your body systems changed, and I got so worry about the acnes. I have tried many anti acne products and even went to see the dermatologist . Still, the acnes and rashes have not gone.

Then I talked with my cousin and she recommended me this bad boy ,

" BK+ ACNE MASK"



First off, I never heard of this product before and this is a Thai brand product. So I did some research and googled on the internet and found that there are so many positive reviews on it. I was like, I should give it a try. 


The BK+ Acne Mask is the product of Bangkok Health Group. On the package, it claims that it is suitable for those who have oily skin and those who have acne related problems. The main ingredients are such Salix Alba Bark Extract, Tea Tree leaf Oil, Fome Officinaris (Mushroom) Extract and Aloe Barbedensis Leaf Juice Powder which helps with the rejuvenation of the skin and anti bacteria that causes acne. (They also claimed that the ingredients are imported from France) Moreover, it is also suitable with those who have sensitive skin.

I have been using this mask for a month (I usually use it once a week).

I love the smell of this mask so much, it is so refreshening !! So nice for your pampering day on the weekend :)  The texture of the mask kinds of remind me of  the Mint Julips Masks but it is more thicker. The instruction said that you should leave it on for 20 minutes then rinse off or wipe off the mask and the rinse off with clean water.




My first impressions on the BK+ Acne Mask are that the smell is really relaxing and refreshening, and after you rinse off the mask, my skin feels so nice and it dries off the acne!! I'm impressed! After using it for a while, the rashes are gone and even i still got acne but it was less than before and i'm happy with it. I love everything about this mask, but the downsize of it is that I think it is too dry for someone who has dry skin like me (so I opted  to use it once a week).      

Here's my recent skin picture.



I think it will be one of the product that I will continue buying it and it's worth the hype (as from many reviews on the internet).

If you are looking for the mask that will help you out with the acne problems and if you have oily skin. The BK+ Acne Mask might be the right product for you.




It came with 1.23 oz or 35g tube and there is now a single use pack on sale now.
The price is around 3xx baht per tube.
You can find it at Watsons and 7-11 
and you can also order it from it's official website BK MASK.

I hope this review might be able to help you guys.
Thanks for reading .

xx








Thursday, May 5, 2016

[REVIEW+SWATCH] KYLIE LIP KIT 4 สี KOKO K, CANDY K, DOLCE K, POSIE K

สวัสดีค่า...
ให้ทายวันนี้มารีวิว อะไร อิอิ



KYLIE LIP KIT ไงจ้า
พลาดกดมานาน ในที่สุดรอบนี้ก็ได้มาในครอบครอง
(นิสั่งมาลอง 4 สีเบสิคๆ นะคะ)

สีที่สั่งมาคือ koko k, candy k, dolce k, แล้วก็ posie k


ในส่วนของ Packaging นั้นถือว่าทำออกมาได้ดีมาก
สวยงามดูไม่ก๊อกแก๊ก ดูมีเอกลักษณ์ดีค่ะ ชอบกล่องที่เป็นรูปปากมาก ดีไซน์สวยมากค่ะ


ใน kit ก็จะมี lip liner กับ lip matte แบบจิ้มจุ่มนะคะ
ส่วนราคา ตกอยู่ที่ 29 usd หรือประมาณ 1,1xx บาทนะคะ แต่รวมค่าส่งมาอังกฤษอีกก็ประมาณแท่งละ 1,230 บาทค่ะ ถามว่าคุ้มไหม ก็คุ้มอยู่นะคะ สำหรับ 2 อย่าง


ตัวผลิตภัณฑ์ ทำจากพลาสติก ที่คล้ายแก้วค่ะ ดูแพงไม่เกลื่อนนะ..


สีทั้งหมด 4 สีคือเป็นโทนนู้ด-ชมพูนะคะ safe zone สำหรับมือใหม่ 555



อันนี้ swatch ใส่มือให้ดูค่ะ ด้านบนเป็นสีจาก lip liner

สำหรับ lipliner ถือว่าเนื้อดีมาก เขียนลื่น+นุ่ม กว่าของ mac นะคะ แต่ติดไม่ทนเท่า
คิดว่าที่จริง lip liner แทบไม่จำเป็นด้วยซ้ำนะ 555 แต่ก็เนาะ การตลาด ขายคู่เราค้องเข้าใจ

ส่วน lip matte นั้น พอดีส่วนตัวไม่เคยลองของยี่ห้ออื่นมา แต่คิดว่าของkylie ทำออกมาดีมาก
เนื้อผลิตภัณฑ์(ของล็อตใหม่) ไม่ข้นและไม่เหลวจนเกินไป ทาแล้วแห้งเร็ว 
รู้สึกเหมือนไม่ได้ทาลิปแมตบนปาก มีความติดทนมากกก ไม่ต้องเติมระหว่างวัน
ลบออกง่าย (ใช้ eye-lip remover แบบน้ำมันดีสุด) สรุปคือให้ใจไปเลย worth it!


 อันนี้มาดูกันว่าแต่ละสีจะอยู่บนใบหน้าของ สาวเอเชียแถบอิสานคนนี้ละจะเป็นยังไง



DOLCE K
เป็นสีน้ำตาลนู้ดแบบที่เข้มกว่า candy k ทาแล้วดูมีความเป็นผู้ใหญ่
มีความ grunge มีความ 90's ดูคลาสสิคดีค่ะ แต่วันไหนไม่แต่งหน้า สีนี้ทาแล้วไม่ผ่านอย่างแรง




 CANDY K
เป็นสีนู้ดออกโทน warm เหมาะกับสาวอันเดอร์โทนเหลืองมาก
ทาแล้วดี ทาแล้วเกิด เหมาะจะทาทุกวัน คือชอบสีนี้ที่สุดแล้ว <3


KOKO K
สีชมพูหวาน ไสยๆ 555 เหมาะกับสาวหวานมากกกก ทาแล้วแบ๊วตาโตไปอีก 10ระดับ
คนผิวขาวอมชมพูต้องสีนี้เลย คอนเฟิร์ม


POSIE K
สีชมพูบ่มไปทางม่วงๆตุ่นๆ
ตอนแรกไม่ได้อยากได้สีนี้นะ แต่ก็สั่งมาลอง สรุปว่าถูกใจมาก คือทาได้ทุกวัน
เป็นสีที่ทาแล้วหน้าไม่หม่น ทาแล้วดูสดใสค่ะ



ฝาก แบบ video ด้วยนะคะ 



สรุปความพอใจ

ราคา 
ความติดทน 
สีสัน 

เจอกัน blog หน้าค่ะ 
xoxo

Monday, February 8, 2016

[REVIEW] สกินแคร์บำรุงผิวแบรนด์ SKINSIDE




สวัสดีค่ะ :)
วันนี้นิจะมารีวิว skincare ชื่อ แบรนด์ SKINSIDE ให้ดูกันนะคะ

SKINSIDE เป็นแบรนด์ใหม่ที่นิเพิ่งจะรู้จักเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ
พอดีมีโอกาสได้ลองผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองทั้งสามตัว ใช้มาประมาณ 2  เดือนกว่าๆ 3 เดือนค่ะ 
แล้วรู้สึกว่า โอเคใช้มาพักนึงละ ... ผลหลังใช้จะมารีวิวให้อ่านกันนะคะ


ผลิตภัณฑ์มีทั้งหมด 3 ตัวนะคะ

SKINSIDE MOISTURIZING BODY LOTION SPF 30

SKINSIDE ROSE SIDE SERUM

SKINSIDE SUN COVER SPF 50 PA+++




นี่เป็นเนื้อของผลิตภัณฑ์นะคะ
จากซ้าย ROSE SIDE SERUM ,SUN COVER, แล้วก็  MOISTURIZING BODY LOTION

 

ช่วงก่อนที่ได้ลองใช้นะคะ ตอนนั้นนิเพิ่งจะมาถึงอังกฤษไม่นาน ช่วงนั้นแพ้น้ำที่นี่ค่ะ
ก็เลยมีสิวขึ้นบ้างประปราย เยอะมากช่วงหน้าผาก หน้าแห้งเพราะอากาศหนาว
รูปข้างล่างคือปิวหน้าปัจจุบันหลังจากใช้ค่ะ คือยังมีสิวบริเวณหน้าปากอยู่บ้างเล็กน้อยค่ะ

หน้าสดกรุณาอย่าตกใจ!! :-D

รีวิวตัวแรกก่อนนะคะ...
SKINSIDE ROSE SIDE SERUM


ตัวนี้เป็นเซรั่มช่วยบำรุงผิว ยกกระชับ และเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าค่ะ
เนื้อเซรั่ม เหลวๆ บางๆ มีกลิ่นหอมๆของกุหลาบ เพราะมีส่วนผสมของสารสกัด จากใบกุหลาบ แบร์เบอร์รี่และ รากชะเอม 



นิปลื้มตัวนี้มากค่ะ จะเห็นได้ว่าจะหมดขวดในรูปก่อนจะมารีวิวแล้ว 555ใช้ทุกวันเช้าเย็นค่ะ
เนื้อเซรั่มซึมเร็ว ทาแล้วรู้สึกเย็นหน้าดีค่ะ ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับประเทศไทยที่อากาศร้อนมากค่ะ
คนหน้ามันก็ใช้ได้นะคะตัวนี้ แต่พอหน้าหนาวที่แบบจับใจของที่อังกฤษตัวนี้แอบแห้งไปหน่อยค่ะ

หลังใช้ หน้านิใสขึ้นนะคะ ผิวไม่แห้งตึง รู้สึกได้ว่ารอยจากการแกะสิวจางลงค่ะ
ให้ไป 4/5 ค่ะ หักที่มันเอามาใช้หน้าหนาวที่อังกฤษแล้วแห้งไปหน่อย
แต่อากาศที่ไทยให้ไป 4.5/5 ค่ะ

ต่อมาเป็นกันแดดตัวดังของแบรนด์นี้นะคะ เห็นล่ำลือกันมาว่าดี

SKINSIDE SUN COVER SPF 50 PA+++


ตัวนี้เป็นครีมกันแดดเนื้อมูส นะคะ คือแห้งเร็ว ไม่มีความเหนอะหนะเลย
ทาแล้วผิวจะให้ความรู้สึกเป็นแบบ Velvet กำมะหยี่ ประมาณนั้นค่ะ
ตัวนี้จะมีส่วนผสมของ Aloe Vera (ว่านหางจระเข้) ช่วยให้ความชุ่มชื้นด้วยนะคะ

ข้อดีข้อแรกเลย คือซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ เหมาะกับไทยแลนด์แดนอากาศร้อนมาก
ข้อสองคือ กลิ่นหอม และมี SPF ถึง 50! พร้อม ด้วย PA+++
ข้อสามคือ ทาแล้วหน้าแอบดูดีขึ้นระดับนึง โปะความไม่สดใสได้เวลาที่ขี้เกียจแต่งหน้า
ผิวดูดีขึ้นหลังทาโดยไม่ต้องทารองพื้นค่ะ เพราะมันเป็นเสมือน makeup base ไปในตัว
รูปล่างเปรียบเทียบ ซ้ายทา ขวาหน้าสด ค่ะ จะเห็นว่าหน้าฝั่งซ่ายดูเรียบเนียนและใสกว่า

ให้ไป 4.5/5 คะแนน
หักที่มันแอบเกลี่ยละแห้งไปหน่อยค่ะ แต่ที่ใช้ไทยอาจจะดีกว่า เพราะอากาศร้อน(เกี่ยวไหม)555




ตัวสุดท้ายเก็บไว้ท้ายสุดเพราะชอบที่สุด! 
คือโลชั่นบำรุงผิวผสมสารกันแดดที่ให้ SPF ถึง 30 เหมาะแก่คนที่ขี้เกียจทาครีมกันแดดแบบเราค่ะ

SKINSIDE MOISTURIZING BODY LOTION SPF 30 PA


โลชั่นตัวนี้เป็นเหมือนสวรรค์มาโปรดคนขี้เกียจทาครีมแบบเราค่ะ คือปกติ นิไม่ชอบทาโลชั่นที่ตัวเลย
กันแดดก็ไม่เคยทา ผิวจึงคล้ำขึ้นจากตอนเด็กๆมาก โลชั่นตัวนี้มีส่วนผสมของ
น้ำนม เมล็ดองุ่นแดง อโลเวร่า และเชียร์บัตเตอร์  และมีสารกันแดด อีก SPF 30 PA
คือถือว่าทาโลชั่นไปก็ได้ทากันแดดไปในตัว ปึ้งเดียวจบ



เนื้อโลชั่นมีสีขาวและค่อนข้างหนา แต่พอทาไปแล้วจะเห็นว่า มัน ซึม เร็ว มากกกกกกก!
ถึงกับตกใจเลยทีเดียว เพราะมันดูเหมือนจะเหนอะหนะ  แต่เปล่าเลย ไม่เหนียวค่ะ ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ
อีกแล้วเหมาะกับอากาศร้อนๆมาก (ตอนไปเที่ยว florida มีอากาศร้อนมาก ระหว่างวันนิก็พกตัวนี้ไปใช้ค่ะ คือดีมาก)



อีกอย่างคือ มันทำให้ผิวดูขาวขึ้นระดับนึงเลยค่ะ ทาแล้วเห็นความแตกต่างเลย
คือมันไม่ใช่ BB ทาตัว แต่มันทำให้ผิวดูขาวขึ้นค่ะ ไม่มีคราบสีตกติดเสื้อแน่นอน และอีกอย่างคือกลิ่นหอมมาก ช่วงอากาศหนาวนิเห็นว่ามันแอบแห้งๆไปหน่อย ก็เอามาผสมโลชั่นเด็กทาค่ะ ทาง่ายกว่าเดิม
แต่สำหรับเมืองร้อนๆ ทาไปเลย สบายใจค่ะ 555 
ให้คะแนนตัวนี้ไป 5/5 เพราะชอบจริงๆ ไม่อยากหัก 5555

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยากให้เพื่อนๆไปลองใช้ดูกันนะคะ อันนี้เป็นแค่ความคิดเห็นของนิ
แต่นิคิดว่าเป็นแบรนด์ที่ดีในระดับนึงและราคาไม่แพงค่ะ 
และอีกอย่างคือผลิตภัณฑ์ทุกตัวได้ถูกพัฒนามาให้เหมาะกับอากาศในประเทศไทย
เลยคิดว่า เพื่อนๆที่ไทยน่าจะชอบกันค่ะ :)

โดยรวมแล้วให้คะแนนแบรนด์นี้ไป 4/5 ค่ะ :D

ขอจบการรีวิวเท่านี้นะคะ
แล้วจะมาอีกแน่นอนค่ะ สัญญา




Saturday, October 3, 2015

I'M MOVING TO UK (:

สวัสดีค่า
ห่างหายกันไปนานอีกแล้ว..

นี่ล่ะค่ะชีวิตคนขี้เกียจอย่างนิ 555

ตอนนี้นิมาเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษค่ะ
ขออัพเดทกันหน่อย

ก็หวังว่าจะมีเวลามานั่งอัพบล็อกมากขึ้น
มากกว่าตอนที่เรียนที่ไทยนะคะ 555

มีประสบการณ์อยากมาแชร์ให้เพื่อนๆ และเพื่อนนักเรียนคนอื่นฟังเยอะแยะเลย

ไว้จะมาเล่า in details อาทิตย์หน้านะคะ

สัญญาว่าจะมารีวิว ความงาม เรื่องแฟชั่นให้ชมเหมือนเคยค่ะ :D

วันนี้เอารูปที่นี่ไปก่อน

เจอกันค่ะ

.

XOXO







Friday, July 3, 2015

[REVIEW] ของจาก LUXOLA: Real Techniques, แบรนด์ใหม่ Makeup Revolution

สวัสดีค่า ทักทายกันแบบเดิม ห่างหายกันไปเนิ่นนาน
วันนี้ก็เลยอยากจะมารีวิวของ (เช่นเคย...  555 ของท่วมบ้านจริงๆ)
เมื่อไม่นานมานี้ ทางเว็บไซต์ Luxola ประเทศไทย
www.luxola.co.th 

ได้ส่งผลิตภัณฑ์ของทางเว็บไซต์มาให้นิทดลองใช้ค่ะ 
อ่ะ บอกกันนิดนึงว่า ตอนที่นิ รีวิว แปรง Zoeva  นั้นยังไม่มีคนนำเข้า
ต่อมาก็เป็น บริษัท luxola ที่เป็นผู้นำเข้าของทางประเทศไทย สามารถหาซื้อแปรง Zoeva ได้ที่เว็บนี้เลย
ไม่ต้องเสียค่าขนส่งระหว่างประเทศ ( ผิดที่เราเจอกันช้าไป... T_T)
อีกอย่างสำหรับสาวๆที่ชอบช็อปปิ้งเครื่องสำอางค์ออนไลน์
www.luxola.co.th เป็นอีกทางเลือกที่ดีเลยค่ะ เพราะจากที่นิลองเข้าไปดูแล้วค่อนข้างที่จะเป็นบริษัทใหญ่
มีเว็บไซต์ของตัวเอง ส่วนทางเว็บมีการจำหน่ายแบรนด์ดังๆหลายแบรนด์ค่ะ พวก The Balm, Zoeva, Real Techniques
ราคานิว่าโอเคนะคะ ถูกกว่าที่ไปซื้อตามเคาน์เตอร์ แต่ก็ข้อเสียของร้านออนไลน์คือ เราไม่ได้ทดลองเองเนาะ
*ส่วนใครที่อยากช็อปในเว็ป นิมีโค้ดส่วนลด20%มาให้ท้ายบล็อคค่ะ :)

Products ที่ทางเว็บส่งมาให้นิลองมีอยู่ 3 แบรนด์ค่ะ
 คือ แปรง Real Techniques ที่เราคุ้นเคย , Lip Lacquer จาก Makeup Revolution แล้วก็ ลิปมันจาก Crazy rumors

หีบห่อมาสวยงามมากค่ะ


แปรงที่ Real Techniques สองตัวนี้นิเพิ่งเคยเห็นนะคะ
อาจเพราะไม่่ค่อยได้ติดตาม

สีชมพูคือ Retractable Lip Brush
พูดภาษาไทยบ้านเราก็คือ แปรงทาลิปที่ปิดฝาได้ !
ข้อดีของนางคือสามารถใช้พกพาได้ เพราะปกติถ้าเราทาลิป แปรงลิปเราจะหนืดๆ
พอใส่ในกระเป๋าเครื่องสำอางค์ มันก็จะไปดูดฝุ่นผงมา ทำให้แปรงเราสกปรกค่ะ
เพราะฉะนั้นแปรงทาลิปที่เราใช้พกพาควรมีปลอก..ซึ่งแปรงตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้ค่ะ
สำหรับนิ นิว่า หัวมันแอบใหญ่ไปหน่อย วลาทาต้องกะระยะนิดนึงค่ะ เดี๋ยวปากจะเป็นโจลี่เข้าได้



ส่วนอีกตัวคือ สีม่วง Silicone Liner Brush
อันนี้แปลกตามาก ตอนแรกที่เห็นคืองง .. นี่คือแปรง? ??
แต่.. มันเวิร์คค่ะ มันใช้สำหรับกรีดอายไลน์เนอร์แบบเจล หรือแบบน้ำค่ะ
ไม่บาดตา กรีดได้เส้นเล็กและคม แถมยังล่างง่ายไปอีก คือความดีงามของแปรงอายไลน์เนอร์ในยุคใหม่นี้ 


  
อันนี้ทดลองใช้กับ เจลอายไลน์เนอร์ของ Bobbi Brown ค่ะ



โดยส่วนตัวแล้ว แปรงลิปหรือตา ก็แล้วแต่ส่วนบุคคลว่าจะชอบหรือไม่นะคะ
แต่ แปรงจาก  Real Techniques ที่นิใช้ประจำคือตามนี้เลยค่ะ
ส่วนใหญี่นิชอบใช้แปรงแบรนด์นี้เพื่อทารองพื้น หรือ บีบีครีมค่ะ คือดีจริงๆ (ดูจากความเยินได้)
โดยเฉพาะด้ามสีม่วง fluffy brush น้อยๆนั้น คือที่สุดจริงๆ นิใช้ลงคอนซีลเลอร์ใต้ตาได้เนียนกริบจิง คอนเฟิร์ม



Makeup Revolution
แบรนด์นี้เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างบนยูทูปมาบ่อยๆค่ะว่า eye shadow นางถูกและดี
ทางเว็บ luxola นำเข้านะคะ แต่วันนี้เราจะมาดูอีก product จากทางแบรนด์

Salvation Velvet Lip Lacquer
เป็นลิปแบบจิ้มจุ่มเนื้อ Velvet ค่ะ ใครที่ชอบลิปแบบจิ้มจุ่มลอง
มาใช้ของแบรนด์นี้ได้ค่ะ เนื้อจะต่างจากของยี่ห้อ Lime Crime นะคะ
อันนั้นจะเป็นเนื้อ Matte แล้วก็ติดทน ล้างออกยากกว่า

ส่วนของแบรนด์นี้จะเป็นเนื้อ Velvet คือกึ่งๆ Matte 
ความติดทน ปานกลางค่ะ ส่วนความเจ้มจ้นของสี ให้เต็มไปเลย


ทางเว็บส่งมาให้สามสีแรงๆ เหมือนจะแกล้งกัน 555
สีนี่เด่นมาตั้งแต่หน้าปากซอย
ปกตินิไม่เคยทาสีจัดๆขนาดนี้เลย ส่วนชื่อของแต่ละสีนั้นก็ดูเป็นสาวน้อยที่หลงรักชายหนุ่มในแบบต่างๆ


 Keep Lying For You
 เป็นสีม่วงๆ ค่ะคล้ายๆ Lime Crime ที่เป็นแบบแท่งสีม่วง

You Took My Love
สีชมพูเจือแดงๆ คล้ายสีลิปแมค ของน้องไมลี่ย์ ไซรัส แต่เข้มกว่า

I Fall in Love
สีชมพูแบบที่จะเห็นได้บนปาก Nicki Minaj สีน่ารักนะคะ แต่ดูเป็นสาวมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งมากกก



แต่ข้อเสียของเจ้าตัวนี้คือฝาที่กั้นระหว่างแปรงลิป กับหลอดลิปมันชอบเด้งขึ้นมาค่ะ
ต้องระวังกันหน่อยเวลาปิดหลอด เพราะมันเหมือนมีแรงดันเวลาเราปิดหลอด แล้วมันจะป๊อปไอ้ตัวกั้นขึ้นมาค่ะ


ตัวสุดท้ายนี่เป็นลิปมันจาก
Crazy Rumors
กลิน Ginger Peach
โดยส่วนตัวแล้วนิเป็นคนทาลิปมันยี่ห้อไหนก็ได้ เพราะคิดว่ามันเหมือนๆกัน
แต่สำหรับยี่ห้อนี่คือ เขามีกลิ่น มีรสชาติมาให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ
ส่วนกลิ่นที่ได้มาก็หอมดีค่ะ ทาแล้วอยากกินมากกกก


ปล. ใครที่อยากช๊อปปิ้ง  ทางแบรนด์ใจดีส่ง โค้ดส่วนลด 20% มาให้ค่ะ
พิมพ์ TLX_NINI  
ลองเข้าไปดูกันค่ะ  www.luxola.co.th :) 




Disclaimer
ได้รับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจากwww.luxola.co.th  ค่ะ





XOXO





Saturday, January 17, 2015

[Haul/Review] winter shopping 2014




ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมานิได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นมาอีกแล้ว แฮะๆ (รอบที่ 3ของปี)
ไปรอบนี้มีแต่กินซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ชอปปิ้งค่ะ
แต่ก็มีได้ของมาบ้างก็เลยอยากเอามา haul และรีวิวไปพร้อมๆกัน ส่วนที่เหลือคือเป็นของที่ซื้อๆมา
ทั้งสั่งออนไลน์และซื้อในห้างของระหว่าง เดือนธันวาคม-มกราคม นี้ค่ะ

แบบ VDO ค่ะ (ทดลองออกอากาศ 555)




เริ่มจากของที่ได้จากญี่ปุ่นก่อนเลย


ที่ได้มาก็เป็น

K-Palette - real lasting eye pencil - dark brown
อันนี้เป็นอายไลเนอร์แบบดินสอที่ติดทนมากกก ชอบรองมาจากของป้า Charlotte Tilbury เลยค่ะ
ติดทนกว่าของป้า แต่ข้อเสียคือมันหักง่ายมากกกกกกก เลยต้องซื้อตุนไว้

Hada Labo - Milk lotion
ปกตินิใช้เป็นโลชั่นสูตรน้ำอยู่แล้ว ก็เลยลองเอาสูตรน้ำนมมาลองใช้ค่ะ
ช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหน้า

Candy Magic - 1 day contact lens
Naturali - 1 day contact lens
คอนแทคเลนส์สีน้ำตาลรายวัน
เนื่องจากนิเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่คอนแทคเลนส์ค่ะ เลยคิดว่าใส่รายวันสะดวกกว่า

Maquilage- Dramatic m rouge RD425
ลิปสติกที่ซื้อมาเพราะชอบพรีเซนเตอร์ แต่ว่าพอเอามาใช้แล้วเนื้อดีมากๆเลย
ออกแนวกึ่งกลอสๆฉ่ำๆค่ะ 

ส่วนนี่นางแบบ กิโกะจัง




Ripi try on lashes - #05
ขนตายี่ห้อนี้เป็นธรรมชาติมาก ต้องลองจริงๆค่ะ




Dr.Bronner's magic soap
สบู่ล้างหน้าที่ใช้ดีมาก พอล้างเสร็จรู้สึกว่าผิวสะอาด นุ่ม และกลิ่นก็สดชื่นค่ะ


และนี่คือสิ่งที่ภูมิใจนำเสนอมาก....

แปรง ZOEVA rose golden luxury set


นิเคยสั่งแบบธรรมดามาแล้วรอบนึงค่ะ แล้วติดใจมาก 
แต่ก็งงว่าหลังจากนั้นก็สั่งโดยตรงจากทางเยอรมันไม่ได้เลย
คงเป็นเพราะมีผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ
ตอนนี้เลยสั่งจากร้าน face centri ค่ะ
(บริการดีมากค่ะ ห่อมาให้อย่างดี ขอบคุณนะคะ)


แปรงมาในสี rose gold ทำให้ดูหรูหรามาก ขนแปรงนั้นก็นุ่มเหมือนเดิมค่ะ
ที่ชอบสุดคือ ล้างแล้วสีไม่ตก ขนไม่ร่วงค่ะ
ในเซ็ทมีทั้งหมด 8 ชิ้น ในราคาที่ซื้อได้แค่ แปรง mac  1 ด้ามครึ่ง โดยประมาณ 

ส่วนอันนี้เป็นของที่ซื้อมาจาก MEMEBOX นะคะ
พอดีว่าเผอิญเห็น Pony บล็อคเกอร์ชาวเกาหลีเขาได้ออกคอเล็คชั่นของเขาออกมา
เห็นว่าราคาไม่แพงเลยลองสั่งมาค่ะ

 MEMEBOX x PONY
shine easy glam
eyeshadow palette


มาเป็นตลับสีดำพลาสติก มีทั้งหมด 8 สี



โดยแบ่งเป็นสีแมท 4 สี และสี glitter  4 สีค่ะ

เนื้ออายแชโดว์สีสวยมากค่ะ พิกเมนท์ค่อนข้างแน่นค่ะ


ตัวอย่างสี

ถ้าใครกำลังหา eyeshadow  ในราคาไม่แพงมาก ก็ขอแนะนำตัวนี้นะคะ
เพราะว่าสามารถใช้งานได้ครอบคลุมค่ะ



 ปีนี้นิก็อายุจะหมดช่วงวัยรุ่นแล้ว
ก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนสกินแคร์ยกเซทเลยค่ะ
(ปกติใช้แค่ hada labo กับ smooth e)

พอดีมีโอกาสได้ลอง Pitera ของ SK-II  โดยการจิ๊กของคุณแม่มาใช้
พอใช้ไปอาทิตย์นึงแล้วรู้สึกว่าผิวหน้าดีขึ้น นุ่มขึ้น
ก็เลยไปจัดมาเองค่ะ พอดีช่วงนี้เขายังมีชุดเซ็ทปีใหม่อยู่
ก็เลยได้ขนาด  215ml ขวด limited มาพร้อมกับโฟมล้างหน้าในราคาที่ถูกกว่าราคาปกติอีกค่ะ
อันนี้ซื้อที่  paragon สามารถใช้บัตร platinum ลดได้อีก 10% คุ้มมากกก


ส่วน skincare อีกตัวที่ได้มาคือ Kiehl's ค่ะ

ของเยอะมากกก... ส่วนใหญ่เป็นของแถมค่ะ 555

ที่ซื้อมาก็จะเป็น

Kiehl's Creamy eye treatment with avocado
ตัวนี้เป็น eye cream ที่ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นรอบดวงตาค่ะ
ตอนแรกคิดว่าเนื้อครีมค่อนข้างหนาและหนักค่ะ แต่พอลองมาเข้าไปจริงๆ
 กลับซึมซับได้เร็วมากๆเลยค่ะ รู้สึกว่าผิวใต้ตาชุ่มชื้นขึ้นจริงๆ

Kiehl's Powerful Strength Line-reducing concentrate
หรือเรียกง่ายๆว่า vit c ของkiehl's
อันนี้ พนง. เชียร์มาว่าดีมาก เพราะมีความเข้มข้นของวิตามินซีสูงมาก
ขายดีมาก เลยเอามาลองดูค่ะ จะใช้ดีไหม เดี๋ยวมารีวิวอีกทีค่ะ

Kiehl's Hydro Plumping re-texturizing serum concentrate
ตัวนี้เป็นตัวให้น้ำกับผิวค่ะ
ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นนานถึง 18 ชม. (เคยได้เทสเตอร์มาลองแล้วชอบเลยซื้อไซส์จริงมาใช้)
พอใช้แล้วรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นจริงๆค่ะ รู้สึกว่าเมคอัพติดทนขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น
อันนี้อยากแนะนำเลยสำหรับคนที่ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น

สุดท้ายเป็นเครื่องสำอางจาก Benefit ค่ะ



Benefit - Cha Cha tint
tint สีส้ม ทาได้ทั้งแก้มและปากสีสวยน่ารักมากค่ะ

Benefit - Dandelion
ตัวนี้เป็นลูกรักเลย ณ ปัจจุบัน เป็นบลัชออนสีชมพูที่เป็นออกมาแล้ว
สีสวยแบ๊วน่ารัก ดูสุขภาพดีมากค่ะ แถมเอามาใช้ไฮไลต์ได้อีก รู้สึกชอบมากค่ะ
ใช้ทุกวันเลย

ก็ขอจบ haul/review เล็กๆไว้เท่านี้นะคะ


คอยติดตามด้วยนะคะ








 photo s_03.jpg  photo s_04.jpg  photo s_05.jpg  photo s_06.jpg  photo s_07.jpg  photo s_08.jpg  photo s_09.jpg  photo s_10.jpg